นิราศเมืองย่าโม ตอนที่ ๒ (พิพิธภัณฑ์ไม้กลายเป็นหิน)

มิตรภาพชื่อนี้มีมานาน
จากวันวานผ่านมาถึงวันนี้
ถนนเชื่อมสัมพันธไมตรี
หลายสิบปีคราคร่ำด้วยรถรา




สู่โคราชเมืองใหญ่ใคร่รู้จัก
ที่พำนักพักพิงเมืองคุณย่า
เคยวิ่งเล่นวัยเยาว์นานเนามา
ถึงเวลาหวนคืนความทรงจำ



ก่อนเข้าเมืองขึ้นสะพานวนไปขวา
มุ่งหมายว่าคงไม่เลยถลำ
จะแวะไปที่เคยผ่านประจำ
หลวงเค้าทำที่ไว้ให้ไปชม




กาลหมุนเวียนเปลี่ยนไม้กลายเป็นหิน
ซากจมดินต้นไม้ถูกทับถม
ผ่านสายธารน้ำเซาะและสายลม
ซากที่จมโผล่พ้นจนเห็นงาม




ทางไปปักธงชัยไม่ไกลนัก
นับเสาหลักกิโลได้สิบสาม
มองให้ดีมีป้ายบอกให้เลี้ยวตาม
หรือจะถามทางไปให้เตรียมตัว




องค์สมเด็จพระเทพฯทรงมาเปิด
แหล่งกำเนิดความรู้สู่ใส่หัว
ทั้งผู้ใหญ่ทั้งเด็กไม่ต้องกลัว
จ่ายค่าตั๋วเข้าชมไม่มากมาย




ขาขยับจับมือพากันไป
อย่าก้าวไวประเดี๋ยวเพื่อนจะหาย
ระวังหน่อยหนามทิ่มแข้งขาลาย
จะแปลงกลายเป็นเม่นเช่นบัดดล



อยู่นั่นไงปากถ้ำนำเราไป
ตกแต่งไว้เป็นทางเดินสับสน
เสียงคำรามร้องดังซุกซ่อนกล
หวั่นกมลลอยเตลิดวิ่งเลิ่ดไป




มีหนังฉายให้ชมก่อนจะเข้า
โลกของเราก่อเกิดมาจากไหน
ทั้งดวงดาวพร่างพราวอันแสนไกล
ฟ้ากว้างใหญ่สุดหูและสุดตา




เอ๊ะอะไรยืนอยู่ข้างหลังภาพ
มีงาดาบยื่นยาวน่ากังขา
โครงกระดูกช้างโบราณแต่นานมา
ยืนเอ็คท่าเปลือยกายไม่อายใคร




ทั้งชิ้นส่วนฟันกรามยามมีใช้
ย้อนกลับไปล้านปีอยู่ที่ไหน
ไดโนเสาร์ครอบครองโลกทั้งใบ
คงเหลือไว้เพียงซากให้เราดู




เก็บรวบรวมฟอสซิลโลกล้านปี
ให้เรามีศึกษาหาความรู้
ใคร่ค้นคว้าหลากหลายคล้ายดั่งครู
ได้เชิดชูเก็บไว้ให้ทุกคน





แล้วตรงนั้นผู้คนเขาเร่งไป
เดินเข้าในห้องหนึ่งซึ่งน่าสน
ฉากวงกลมล้อมรอบดูชอบกล
นั่งคอยยลเลือกทำเลตรงกึ่งกลาง




เจ้าทีเร็กซ์โผล่มาอยู่ด้านหน้า
จ้องไล่ล่าเหยื่อหนีจี้ติดหาง
กระโดดงับเสียงเหยื่อร้องครวญคราง
เปลี่ยนทิศทางข้ามไปด้านหลังเรา




หนังจบแล้วทยอยเดินออกมา
อะไรหนายืนหน้าไดโนเสาร์
ต๊กกะใจที่แท้ก็แม่เรา
ให้นึกเดาไม่รู้เผ่าพันธุ์ใด




โอ๊ย..ช่วยด้วยเดี๋ยวหัวจะถูกงับ
ใครช่วยจับแร็บเตอร์หน่อยได้ไหม
ไม่รู้หลุดออกมาแต่คราใด
วิ่งให้ไวหนีเร็วอย่าช้าที




โบราณว่าหนีเสือปะจระเข้
วิ่งจนเซมาหยุดยืนตรงนี้
เจอะทีเร็กซ์เจ้าแห่งโลกล้านปี
จ้ำอีกทีวิ่งหนีให้ไกลมัน




ขอพักหน่อยขุดค้นหาฟอสซิล
ใช้ทั้งสิ่วทั้งแปรงค้นหาฝัน
ขุดดีดีอย่าปัดทรายมาโดนกัน
เจอะแล้วฟันไดโนเสาร์เอ้ามันดี




ลุงหนุ่มยืนรอลุ้นอยู่ข้างหน้า
เหมือนทำท่าเชี่ยวชาญในเรื่องนี้
ปล่อยให้เด็กเป็นนักธรณี
ขุดค้นทีตามเรื่องตามเวลา




อยากลองเป็นไดโนเสาร์ดูสักครั้ง
คิดว่ายังลองเป็นตัวสีฟ้า
เข้าไปสวมแล้วพุ่งหัวออกมา
เซถลาลื่นไถลไม่พอดี




ได้เวลาล่ำลาไดโนเสาร์
สิ่งที่เราเรียนรู้จากสิ่งนี้
ไม่มีสิ่งใดอยู่ชั่วชีวี
สักวันมีสิ่งใหม่ทดแทนกัน




แม้วันหนึ่งยิ่งใหญ่จนคับโลก
เมื่ออับโชคสิ้นสูญมิเหหัน
คงเหลืออยู่สิ่งเดียวจวบถึงวัน
ชื่อเสียงนั้นความดีสร้างสมมา




สิ่งจริงแท้แน่นอนไม่แน่นอน
จำพร่ำสอนอย่าทะนงตนหนักหนา
ถึงยิ่งใหญ่ย่อมแพ้กาลเวลา
ดับกายาคืนกลับสู่พื้นดิน






Create Date : 26 เมษายน 2553
Last Update : 29 เมษายน 2553 11:28:48 น.
Counter : 1732 Pageviews.

1 comment
นิราศเมืองย่าโม ตอนที่ ๑ (วัดหลวงพ่อโต)

นิราศร้างห่างไกลจากบ้านเก่า
ถิ่นลำเนาก่อเกิดกำเนิดพ่อ
ถึงตัวไกลแต่ใจยังเฝ้ารอ
เพียงแค่ขอย้อนกลับไปบ้านเรา





ความทรงจำที่ดียังคงอยู่
ได้รับรู้แอบซ่อนในใจเหงา
สิ่งดีดีตราตรึงเป็นเหมือนเงา
เพียงเก็บเอาใส่ในลิ้นชักตน





ในครั้งนี้เดินทางไปเยี่ยมย่า
หญิงชราผู้ผ่านร้อนหนาวฝน
เคยลำบากตรากตรำและทุกข์ทน
เลี้ยงทุกคนเติบโตให้ได้ดี





จากวิภาวดีที่คุ้นเคย
มุ่งผ่านเลยห่างไกลไปจากนี่
เมื่อไปถึงตัวเมืองสระบุรี
เลี้ยวขวาทีไปสู่เมืองย่าโม





ผ่านขุนเขาลำเนาและพงไพร
ป่าพฤษไพรกว้างใหญ่ไกลอักโข
สูงตระหง่านผ่านไปหลายกิโล
ช่างใหญ่โตสมชื่อคือเขาใหญ่





ก่อกำเนิดสายน้ำและธารา
ไหลรินมาหลั่งรวมสายน้ำใหม่
ลำตะคลองครองคู่คููุ่หัวใจ
หล่อเลี้ยงไปถ้วนทั่วทุกครัวเรือน





ผ่านสีคิ้วอย่าลิ่วจนเลยผ่าน
สูงตระหง่านสวยงามหาใดเหมือน
นมัสการหลวงปู่โตเมื่อมาเยือน
สติเตือนตั้งมั่นอย่างตั้งใจ





สรพงษ์ชาตรีเขามุ่งมั่น
ร่วมสร้างกันความเพียรจะหาไหน
มูลนิธิก่อเกิดดั่งเปิดใจ
ให้ร่วมใจสะสมบารมี





ศิลปะงดงามยามเพ่งพิศ
แสนวิจิตรบรรจงตรงโบสถ์นี้
มองด้านนอกยิ่งใหญ่หาใดมี
สถานที่กว้างใหญ่ไม่ไกลทาง





มองเห็นคนล้นหลามตามกันไป
เข้าด้านในขยับนั่งลงข้างข้าง
อฐิฐานตั้งจิตปล่อยใจวาง
ควันธูปจางเจือจิตให้คิดดี





หลวงปู่จ๋าช่วยดลคนในชาติ
ที่ต่างขาดศีลธรรมนำวิถี
แตกแยกกันทั่วทั้งปฐพี
ขอให้มีความรักชักนำใจ





กลับคืนเป็นพี่น้องเพื่อนพ้องกัน
ไม่เดียจฉันท์แบ่งแยกแตกสีไหน
ท้ายที่สุดหาใช่คนอื่นไกล
สีเดียวไซ้รเลือดไทยทั้งเผ่าพันธุ์





สามประการสิ่งหนึ่งนั้นคือชาติ
จักไม่ขาดศาสนาคือสองนั้น
และสิ่งสามยิ่งถือคือสำคัญ
กษัติย์นั้นศูนย์รวมความเป็นไทย





แถวระฆังเรียงรายไม่วายเว้น
เช้ายันเย็นเสียงกังวานดังแจ่มใส
คนเดินเคาะขอพรเรื่อยเรื่อยไป
ขอให้ไทยร่มเย็นเช่นวันวาน





ได้เวลาล่ำลาจากสีคิ้ว
มุ่งตรงลิ่วต่อไปเพื่อกลับบ้าน
เพียงอึดใจคิดไว้คงไม่นาน
ความต้องการคืนถิ่นไม่สิ้นไป





ก่อนจะลาขอพรครั้งสุดท้าย
ไม่เสียดายสร้างบุญสะสมไว้
แม้ชาตินี้ผลบุญที่ทำไป
รูปไฉไลสวยสมนิยมเอย









Create Date : 13 เมษายน 2553
Last Update : 13 เมษายน 2553 12:47:36 น.
Counter : 969 Pageviews.

3 comment
นิราศวังน้ำเขียว ตอนที่ ๔ (วิลเลจฟาร์ม)

ออกมาจากบุไทรคันทรีวิว
ขับรถลิ่วพร้อมหมู่มิตรสหาย
ปล่อยหัวใจล่องลอยตามสบาย
มีจุดหมายแวะชมวิลเลจฟาร์ม





เถาองุ่นเกี่ยวเกาะเลาะไม้พิง
ใช้แอบอิงลำต้นจนล้นหลาม
ทิวสีเขียวกลืนผสมสีฟ้าคราม
ดูงดงามมองไปไกลสายตา





เดินขึ้นไปมองเห็นโรงนาเก่า
เป็นร่มเงาให้เราเร่งเข้าหา
บรรยากาศฝรั่งเศสสะดุดตา
คล้ายดังว่าได้เยือนยังต่างแดน





เข้าด้านในกลิ่นไวน์ยังกรุ่นกรุ่น
ดูเคยคุ้นไวน์พ่อซะเหลือแสน
ถังไม้โอ๊คล้วนสั่งจากต่างแดน
เนื้อไม้แกนบ่มองุ่นจนเป็นไวน์





มีอาหารบริการหากใครอยาก
หรือของฝากคนไกลทำไว้ขาย
ที่สำคัญหากมาต้องสั่งไวน์
มีมากมายบ่มไว้นานหลายปี





ที่แนะนำนั่นคือน้ำองุ่น
กลิ่นหอมกรุ่นเข้มข้นจนเต็มที่
สีแดงสดรดชาดอร่อยดี
มาทั้งทีต้องลองของดีจริง





สั่งกันทั่วทุกคนครบถ้วนแล้ว
คงไม่แคล้วจับกลุ่มยืนสุงสิง
ส่วนลุงเสริฐเลือกนั่งเพื่ิอพักพิง
เอนหลังอิงม้านั่งหน้าโรงนา





มาถึงที่ไม่ลืมชักภาพก่อน
ยืนสลอนต่างคนต่างเต๊ะท่า
ขอขอบคุณคืนวันและเวลา
ยิ้มร่ำลาก่อนจากวิลเลจฟาร์ม





อันเมืองไทยอุดมสมบรูณ์ยิ่ง
มีหลายสิ่งมากมายในสยาม
ยังเหลือที่ให้ยลความงดงาม
ย่างก้าวตามเที่ยวท่องล่องลำนำ





เดินกอดคอคืนกลับไปบางกอก
เสียงใจบอกแว่วยินกระซิบซ้ำ
สิ่งที่ดีควรเก็บและจดจำ
เคยลุยย่ำลำนำวังน้ำเขียว








Create Date : 08 กันยายน 2552
Last Update : 18 กันยายน 2552 9:17:18 น.
Counter : 1289 Pageviews.

0 comment
นิราศวังน้ำเขียว ตอนที่ ๓ (บุไทรคันทรีวิว)

จากปากช่องมุ่งหน้าวังน้ำเขียว
ทางเลาะเลี้ยววิ่งเลียบป่าเขาใหญ่
ผ่านแมกไม้ขุนเขาลำเนาไพร
รถผ่านไปนานครั้งช่างวังเวง

เส้นทางไปไม่คุ้นนั่งลุ้นหมด
มีเพียงรถพวกเราวิ่งโหลงเหลง
กลบความเงียบด้วยการเปิดเสียงเพลง
กล่อมบรรเลงเราเองตลอดทาง





มีถนนย่อมมีเส้นทางออก
ไม่ลวงหลอกแม้ทางจะอ้างว้าง
ไม่ช้านานก็โผล่ยังเส้นกลาง
ไม่เลือนลางสู่ทางเขาแผงม้า





สู่ทางหลักจะไปยังจุดหมาย
ความผ่อนคลายกังวลสิ้นกังขา
เสียงพูดคุยสนุกสนานและเฮฮา
กลับคืนมาเริงรื่นชื่นฤดี





ตลอดทางมากมายหลายแห่งนัก
แหล่งเข้าพักท่องเที่ยวมีหลายที่
ความงดงามบรรยายกาศก็แสนดี
สมกับที่ขึ้นชื่อในเมืองไทย





คือสวิตเซอร์แลนด์แดนอีสาน
คำเล่าขานเปรียบเทียบถึงแหล่งใหม่
เป็นที่ึเจ็ดโอโซนโลกทั้งใบ
ให้คงไว้สิ่งดีที่ไทยมี





ระหว่างทางแวะชมไร่องุ่น
สีม่วงขุ่นเป็นพวงสุกเต็มที่
ดั่งรอคอยเก็บเกี่ยวเวลาดี
จากทั้งปีดูแลและใส่ใจ





ดอกหน้าวัวออกช่อสีแดงสด
ทั่วทั้งหมดอวดช่อชูไสว
แข่งขันกันเบ่งบานไม่อายใคร
คล้ายหัวใจสีแดงตะแคงมอง





แม้แต่ดอกสีขาวพราวสะพรั่ง
เกสรตั้งสีส้มทั่วทั้งผอง
ล่อผีเสื้อชมเชยเพื่อดมดอม
บินไต่ตอมผสมเกสรตน





ได้ยินเสียงกระดิ่งดังกริ่งกร่าง
จอดข้างทางอยู่ใกล้ริมถนน
เห็นแล้วอยากไอติมกันทุกคน
เดินเวียนวนร้องสั่งชิมทั่วกัน





ไปต่อไปมุ่งหน้าตามจุดหมาย
มองเห็นป้ายบอกเลี้ยวไปทางนั้น
ดีใจจังเร่งรีบขับตามพลัน
มีนัดกันบุไทรคันทรีวิว





ในตอนแรกบนถนนยังราดยาง
เหมือนอำพลางเส้นทางรถวิ่งฉิว
สักพักหนึ่งตกใจตัวลอยปลิว
คันทรีวิวพาวิ่งทางลูกรัง





ฮั่นนั่นแน่..เห็นแล้วประตูเข้า
เพื่อนพ้องเราตามมาอยู่ข้างหลัง
อีกหน่อยเดียวถึงที่โปรดระวัง
อย่าวิ่งพังชนรั้วหน้าประตู





พบพี่เพลงพี่พิณมาถึงก่อน
แอบไปนอนพักผ่อนก่อนคุดคู้
สบทบกันพร้อมสรรพเหมือนจับปู
กางนิ้วชูก่อนเข้าเรือนของตน





เป็นเรือนไม้เรือนนอนพักเตียงคู่
เรียบแต่หรูกางมุ้งนอนสักหน
บ้านหนึ่งหลังแบ่งนอนได้สี่คน
ไม่เบียดจนอึดอัดขัดที่ทาง





ช่วงเวลาหรรษาพาพักผ่อน
ตะวันรอนสาดแสงส่องด้านข้าง
นั่งล้อมวงสังสรรค์กันไปพลาง
พูดคุยอย่างสรวลเสและเฮฮา





เหลือบไปเห็นเจ้าหนอนตัวเขียวใหญ่
ไต่ขึ้นไปกัดกินใบไม้หนา
ขนลุกซู่หากหนอนตกลงมา
คงเฮฮาวงแตกต้องแยกวง





แสงสีส้มเริ่มจับที่ขอบฟ้า
เหมือนนำพาจิตใจให้ลุ่มหลง
เมื่อมองเห็นอาทิตย์อัศดง
ราตรีคงมาเยือนเตือนจิตใจ





นั่งล้อมวงกินข้าวราวโหยหิว
มองเห็นวิวไร่สวนชวนหลงไหล
ใครเขาว่าความสุขอยู่ที่ใจ
เก็บไว้ในห้วงสุขของตัวเรา





อากาศเย็นลดลงทีละนิด
เมื่ออาทิตย์สั่งลาลับทิวเขา
รัตติกาลมาเยือนเห็นเลือนเงา
เตือนให้เราเขานอนพักผ่อนกาย





แม้อาทิตย์ตกลงไม่เคยหยุด
ท้ายที่สุดโผล่ขึ้นยังจุดหมาย
ยังวนเวียนคงอยู่มิเว้นวาย
หากมลายดับลงคงสิ้นกัน





ตื่นยามเช้าท่ามกลางในม่านหมอก
เหมือนลวงหลอกว่าตื่นหรือนอนฝัน
ในความจริงเพ้อพร่ำล่ำรำพัน
อยากเหหันบางกอกที่หลอกลวง





อากาศดีนำพาอารมณ์ดี
ธรรมชาติมีมอบให้ไม่แหนหวง
มองเห็นค่ารักษาสิ่งทั้งปวง
ประทับทรวงเก็บไว้ในความจำ





ได้เวลามาถึงอาหารเช้า
เลือกไข่ดาวขนมปังที่พอคำ
เมนูฮิตทุกที่มีให้ทำ
เป็นประจำท่องจำได้ขึ้นใจ





กินอิ่มหนำสำราญจนบานท้อง
รวมเพื่อนพ้องเดินเล่นด้วยกันไหม
เห็นล้อเกวียนวงเก่าเดินเข้าไป
ชักภาพไว้ดูหน่อยเอ็นจอยดี





หมดเวลาบุไทรคันทรีวิว
คงถึงคิวจากลากันวันนี้
กลิ่นบ้านไร่ปลายเขาเข้าชีวี
โอกาสมีคงกลับมาทักทาย









Create Date : 07 กันยายน 2552
Last Update : 14 กันยายน 2552 9:23:26 น.
Counter : 2384 Pageviews.

3 comment
นิราศวังน้ำเขียว ตอนที่ ๒ (แวะกินข้าวบ้านไม้ชายน้ำ รีสอร์ท )

อยู่ในเมืองปากช่องลองแวะหน่อย
ร้านอร่อยผู้คนเขาเอ่ยถึง
ชื่อบ้านไม้ชายน้ำให้คำนึง
เข้าซอยถึงที่หมายได้ไม่นาน





ด้านหน้าร้านมีไม้กระดานหก
โยกกระดกสองคนสนุกสนาน
มาถึงก่อนเล่นรอใจเบิกบาน
ไม่เกินนานถึงพร้อมกันทุกคน





เดินผ่านซุ้มดอกไม้เข้าด้านใน
กระจกใสใส่โชว์ของมากล้น
เก็บตุ๊กตาน่ารักเป็นตัวตน
มีปะปนมากมายหลายท่าที





แต่งเป็นร้านกาแฟแต่โบราณ
ของในร้านมีขนมหลากหลายสี
บรรจุอยู่ในปี๊บบรรดามี
ดูแปลกดีตามวิถีคนโบราณ





เก็บของเก่าสะสมอยู่มากมาย
ไม่สูญหายรักษาเหมือนเป็นบ้าน
ของบางสิ่งอายุช่างยาวนาน
ให้รุ่นหลานได้เห็นและชื่นชม





บรรยายกาศร่มรื่นใต้เงาไม้
เย็นสบายสดชื่นเหลือจะข่ม
เสียงน้ำไหลสอดรับกับสายลม
ปล่อยอารมณ์เพลิดเพลินจำเริญใจ





จับจองโต๊ะที่นั่งเลือกทำเล
ด้วยฮาเฮสั่งเมนูกันชุดใหญ่
หมี่โคราชต้มยำส้มตำไทย
ไม่ทันไรราบเรียบหมดทุกจาน





กินอิ่มแล้วรอคอยคนเก็บเงิน
เล่นเพลินเพลินขายของอยู่หน้าร้าน
สั่งอะไรได้เลยไม่ช้านาน
เปรี้ยวเค็มหวานชอบใจสั่งได้เลย





หรือจะสั่งกาแฟแบบชงสด
ทำได้หมดยืนชงอย่างเปิดเผย
น้ำตาลหน่อยเติมผสมทั้งนมเนย
ใครไม่เคยได้ลิ้มลองชิมดู





หรือแบ่งข้างกันเล่นเตะบอลโต๊ะ
หมุนเช๊ะโช๊วะช่วยกันเป็นคู่หู
อีกฝ่ายหนึ่งถือว่าเป็นศัตรู
เตะลงรูใครก่อนสอนเชิงกัน





บ่ายแก่แล้วเห็นที่ต้องไปต่อ
ไม่รีรอเดินออกจากร้านนั่น
แต่ลุงใหม่เบรคหยุดสะดุดพลัน
เหลียวหน้าหันมองสาวจะก้าวตาม





ต้องรีบเตือนสติให้คืนกลับ
ช่วยกันจับขึ้นรถคันที่สาม
ทิ้งบ้านไม้ชายน้ำและคนงาม
ไว้เมื่อยามมาใหม่คงได้เจอ










Create Date : 30 สิงหาคม 2552
Last Update : 10 กันยายน 2552 12:24:42 น.
Counter : 1842 Pageviews.

0 comment
1  2  

nenenery
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



ชื่อเนเน่คนนี้เป็นพี่ใหญ่
ถัดกันไปชื่อเนยเป็นน้องสาว
ชอบท่องเที่ยวไปเรื่อยตามเรื่องราว
ทั้งสั้นยาวหนทางแตกต่างกัน
ประสบการณ์เรียนรู้สู่โลกกว้าง
มีที่ว่างเติมใจให้สุขสันต์
เมื่อลมเพพัดเอื่อยเรื่อยเรื่อยพลัน
ปล่อยใจฝันตามลมให้สมทรวง